คนทำงานส่วนใหญ่จะทุ่มเททำงานเพื่อให้ประสบความสำเร็จมีความก้าวหน้า ซึ่งจะตามมาด้วยตำแหน่งและค่าตอบแทนที่สูงขึ้น หลายคนจึงทุ่มเททำงานจนละเลยเรื่องสุขภาพ วันนี้เราจึงนำ 7 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำหากไม่อยากสุขภาพแย่ งานพัง มาฝากกัน ให้ลองเช็คดูว่าตัวเองตรงข้อไหนบ้างมั้ย จะได้ปรับปรุงตัวเองซะใหม่เพื่อให้มีสุขภาพกายที่ดีขึ้นกันนะครับ
1. การนั่งอยู่กับที่นานๆ คนทั่วไปมักอิจฉาคนทำงานออฟฟิศว่านั่งทำงานสบาย แต่หารู้ไม่ว่า การนั่งอยู่กับที่นานๆ เป็นภัยเงียบที่น่ากลัว เสี่ยงต่อการเกิดโรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อม ทำให้ปวดบริเวณคอ ไหล่ และบ่า บางครั้งลามไปกดทับเส้นประสาท ทำให้อาการปวดลามไปถึงแขน มีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง และหากไปกดทับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองจะทำให้รู้สึกปวดหัว ปวดกระบอกตา และรู้สึกบ้านหมุน คนที่นั่งทำงานนานๆ จึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหมั่นยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ ไม่ควรโน้มศีรษะอ่านหนังสือเป็นเวลานาน แต่ควรยกหนังสือให้ตั้งขึ้นในระดับสายตาแทน
2.อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทำงานที่คนทำงานออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องใช้กันแทบทุกวัน ทราบมั้ยว่าการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ทั้งวันมีผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ตาตึงเครียด มองภาพไม่ชัด สายตาสั้น ปวดศรีษะ ดังนั้นคนที่ต้องทำงานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ จึงควรให้มีแผ่นช่วยกรองรังสีหน้าจอ การพักสายตาทุกๆ 1 ชั่วโมง มองออกไปไกลๆ ถ้าเป็นต้นไม้เขียวๆ ก็จะทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนี้การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ทำให้มีอาการปวดหลัง ปวดคอ และปวดศีรษะด้วย จึงควรจะเปลี่ยนท่านั่ง และลุกออกไปเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง ไม่ควรนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานๆ
3. เก็บสะสมความเครียด ในการทำงานสิ่งที่ทุกคนมักเจอกันคือความเครียดซึ่งอาจจะมาจากหลายๆสาเหตุ เช่น โดนเจ้านายบ่นหรือเจองานเร่งทำไม่ทันบ้าง เพื่อนร่วมงานไม่ให้ความร่วมมือบ้างหรือเหตุผลต่างๆนาๆที่อาจทำให้คุณเกิดภาวะความเครียดสะสมในแต่ละวันได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว ซึ่งการเก็บสะสมความเครียดสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายคุณโดยตรง ก่อให้เกิดโรค ไมเกรนและโรคต่างๆตามมา รวมถึงทำให้สุขภาพจิตไม่สดใส เซื่องซึมและเสียบุคลิกภาพอีกด้วยซึ่งไม่เป็นผลดีเลย วิธีแก้ไขที่ทำได้ง่ายๆเลยคือคุณควรหาเวลาพักผ่อน ปล่อยวางความเครียดในการทำงานลงบ้าง ออกกำลังกาย หางานอดิเรกหรือกิจกรรมที่คุณชอบทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว หรือกินอาหารอร่อยๆที่ชอบก็สามารถทำให้เราผ่อนคลายความเครียดลงได้ ยิ่งเป็นสิ่งที่เราชอบแล้วยิ่งลดความเครียดสะสมได้ดีเลยทีเดียว
4. การบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ คนทำงานออฟฟิศมักจะเร่งรีบ ทั้งจากการเดินทาง จากงานมาก งานเร่ง ทำให้ทานอาหารไม่ตรงเวลา ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร รับประทานแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น อาหารสำเร็จรูป ถึงแม้ว่าจะสะดวกสบาย ใช้เวลาน้อย แต่ถ้ารับประทานเป็นประจำ จะเกิดผลเสียต่อร่างกาย นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังเป็นสาเหตุการเกิดโรคอีกหลายชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น ดังนั้น คนทำงานออฟฟิศจึงควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทุกมื้อ ควรแบ่งเวลาสำหรับรับประทานอาหารให้เหมาะสม เลือกอาหารที่สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย หลีกเลี่ยงอาหารปิ้งย่าง อาหารทอด อาหารหวานจัด เค็มจัด เป็นต้น เพื่อถนอมสุขภาพให้สามารถทำงานได้นานๆ ไม่ต้องเก็บเงินเพื่อไปจ่ายค่าหมอตอนอายุมากๆ
5. ขาดการออกกำลังกาย คนทำงานทุกคนรู้ดีว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์อย่างไร แต่คนส่วนใหญ่ก็มักไม่ออกกำลังกาย กัน โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศ จะด้วยเพราะงานยุ่งไม่มีเวลา มีกิจกรรมสังสรรค์หลังเลิกงาน ต้องดูแลครอบครัว ไม่เห็นความสำคัญ เป็นต้น การขาดการออกกำลังกายอาจไม่เห็นผลในระยะสั้นๆ แต่ระยะยาวจะเป็นสาเหตุโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น รวมถึงทำให้ขาดความกระปี้กระเป่า เฉื่อยชา ไม่มีชีวิตชีวา ทำงานขาดประสิทธิภาพ คนทำงานควรหาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละอย่างน้อย 30 นาที หากบริษัทมีสวัสดิการด้านการออกกำลังกาย ก็จะช่วยส่งเสริมสุขภาพคนทำงานได้เป็นอย่างดี
6. ดื่มน้ำปริมาณน้อยเกินไป น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อร่างกายของเรา สุขภาพจะดีหรือไม่ดีส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการดื่มน้ำของเรานี่แหละ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ สามารถส่งผลให้ร่างกายเกิดโรคต่างๆตามมาได้ เช่น โรคอ้วน โรคความจำเสื่อม และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และในเพศหญิงยังทำให้เกิดภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติอีกด้วย เพราะการดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ให้ร่างกายขาดน้ำและมีน้ำที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้ไม่เพียงพอ ทุกครั้งที่เกิดอาการคอแห้งหรือกระหายน้ำมากๆ แสดงว่าเราดื่มน้ำไม่เพียงพอและร่างกายกำลังขาดน้ำอยู่ ซึ่งการที่จะเช็คดูว่าเราดื่มน้ำเพียงพอไหมนั้นสามารถสังเกตุได้จากความถี่ในการเข้าห้องน้ำและสีของปัสสาวะของเราเอง
7. นอนน้อย การที่คุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ สามารถส่งผลเสียที่กระทบต่อสุขภาพและการทำงานได้ เพราะเมื่อนอนไม่เพียงพอจะทำให้เรามีอารมณ์ที่หงุดหงิดและเหนื่อยง่าย เกิดอาการง่วงซึมเฉื่อยชา ทำให้สมองทำงานช้าลงและยังอาจทำให้เกิดภาวะหลับใน ซึ่งเป็นอัตรายอย่างมากกับคนที่ทำงานควบคุมเครื่องจักร คนที่ขับขี่บนท้องถนนและยังเสี่ยงทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเลย หลายคนเมื่อมีอาการง่วงส่วนใหญ่มักใช้วิธีดื่มเครื่องดื่มที่มีคาแฟอีนแทน ซึ่งถ้าดื่มมากเกินไปก็อาจส่งผลต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นได้ ทางที่ดีควรหาเวลานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะดีกว่า เพียงแค่วันละ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน ก็สามารถเรียกความสดชื่นและยังได้สุขภาพที่ดีกลับมาด้วย
ควรดูแลสุขภาพให้ดีก่อนเพราะเงินไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีได้ แต่สุขภาพที่ดีสามารถทำงานหาเงินมาได้นะครับ อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพกันด้วยจะได้มีสุขภาพที่ดีและงานก็จะไม่พังอีกด้วยครับ